เหลือเวลา อีก 45 วันคือทุกคนรอคอย - Phrae Business

Phrae Business

หนังสือพิมพ์ ธุรกิจแพร่

Breaking

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เหลือเวลา อีก 45 วันคือทุกคนรอคอย


             การปกป้องผลประโยชน์ของมวลสมาชิก กองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่ได้ดำเนินงานในการจัดเก็บสมาชิกที่ได้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในแต่ละหมู่บ้านที่ทางรัฐได้จัดสรรงบประมาณมาให้ชาวบ้านกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดเองได้ในการประชุมชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านแล้วมารวมกันเป็นระดับตำบลจนถึงระดับอำเภอ เพื่อให้ชาวบ้านที่ขาดทุนทรัพย์ในการหาทุนมาประกอบค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน แต่มีคณะกรรมการที่แต่ละหมู่บ้านแต่ละตำบลและแต่ละอำเภอ ไปอ้างอิงกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในหลายๆข้อ ซึ่งนำมาแปรเจตนาเข้าใจผิดคิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลเกี่ยวกับกองทุนฯและระเบียบกองทุนฯมีอยู่หลายหมวดของระเบียบคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ว่าด้วย เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พ.ศ. 2549 ที่คณะกรรมการเกือบจะทั้งประเทศหรืออาจจะบางอำเภอหรือบางจังหวัด ที่ไปตีความหมายการบริหารที่ไม่ถูกต้องจนนำพามาซึ่งการร้องเรียนและศาลจังหวัดแพร่ก็ได้ตัดสินแล้วว่าผิดกฎระเบียบกองทุนฯแต่ไปเข้าข่าย พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 มาตรา 33 ว่าด้วยห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการโดยวิธีใดๆที่คล้ายคลึงกันให้ผู้ใดเข้าเป็นสมาชิกสมาคมเป็นกิจสงเคราะห์ที่ยังมิได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมาย มาตรา 34 ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้อื่นเข้าเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่น ไม่ว่าจะเป็นสินจ้างหรือค่าใช้จ่ายอื่นจากการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการ ศาลจังหวัดแพร่ ได้อ่านคำพิพากษาลงโทษกับผู้จัดตั้งกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 ในบทกำหนดโทษ มาตรา 61 ผู้ใดดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยมิได้จดทะเบียนสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หรือขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 62, 63, 64, 65 และ66 ว่าด้วย ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 33 หรือมาตรา 34 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่สำหรับผู้บริหารของกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทั้ง 7คน ประกอบด้วย ดต.บุญเลิศ ธุระทำ, นายประสงค์ ขยัก, นายสังคม อุ่นกาศ, นายชาญณรงค์ พอจิต, นางสมคิด แสงสนิท, นายมานิตย์ นันทะวิเชียร และนายกิตติวัฒน์ เวียงนาค ทั้งหมดเป็นฝ่ายบริหารกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่บริหารเงินมหาศาลถึง 69 กว่าล้านบาท จากมวลสมาชิก จำนวน 20,206 คนทั้งอำเภอสูงเม่น ถือว่าทุกคนเข้ามากับการอ้างอิงกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนที่ฝ่ายบริหารฯร่างกฎระเบียบการบริหารและการเบิกจ่ายเงินแบบไม่มีทิศทางที่ไม่มีกฎหมายรองรับและบริหารกองทุนฯมาตั้งแต่ปี 2555 จนมีการร้องเรียนในที่สุด เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2561 นายชณภพ ไกรศักดิ์ นายกเทศมนตรีเทศมนตรีเทศบาลตำบล สูงเม่น ซึ่งเป็นนายทะเบียนโดยตำแหน่ง ได้เชิญฝ่ายบริหารฯที่ศาลมีคำสั่งให้การดำเนินงานกองทุนสวัสดิการ อำเภอสูงเม่นเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ.ฌาปนกิจฯ ภายใน 90 วัน โดยมี นายกิตติ แก้ววิเศษ นิติกรชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ พร้อมเจ้าหน้าที่ สำนักงานเทศบาลตำบลสูงเม่น จ.แพร่ มาชี้แจงและให้ความรู้เกี่ยวกับด้านกฎหมาย พ.ร.บ.ฌาปนกิจ สงเคราะห์ พ.ศ. 2545 และเหลือเวลาอีก 45 วันก็จะหมดเวลาตามคำสั่งศาล นสพ.ธุรกิจ แพร่ จะนำเสนอความคืบหน้าในการดำเนินการจดทะเบียนของกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ และอีกหลายพื้นที่กำลังถูกตรวจสอบในกรณีดังกล่าว ว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ฌาปนกิจฯหรือไม่? กรณีลักษณะเช่นนี้ ถือว่า อ.สูงเม่น เป็นตัวนำร่องของการจัดการเพื่อปกป้องเงินมหาศาลของมวลสมาชิกที่เข้ามาสมัครเพราะความเข้าใจผิดของฝ่ายบริหารฯและสมาชิกไม่สามารถตรวจสอบได้และทางฝ่ายเครือข่ายแต่ละหมู่บ้านก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบกับสมาชิกในหมู่บ้านหรือตำบลได้ จนนำสู่การร้องเรียนจนศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด.....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Pages