จากกรณี เมื่อเดือน เมษายน 2561 มีสมาชิกกองทุน สวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ มีความสงสัยกับการบริหารของฝ่ายบริหารกองทุนฯ ไม่โปร่งใส นำเงินไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ของการบริหารจัดการและที่สำคัญมีกฎหมายรองรับหรือไม่ จึงสู่การร้องเรียน ถึงสื่อ หนังสือพิมพ์ ธุรกิจแพร่ ให้ช่วยตรวจสอบและนำเรื่องเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการ ถึงศูนย์ดำรงธรรม อำเภอสูงเม่น โดย เรืออากาศตรี อดุลย์ พรหมวาทย์ นายอำเภอสูงเม่น และร้องเรียน ไปยังศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดแพร่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ได้สั่งการให้ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด แพร่ ให้ตรวจสอบกับกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ว่าอยู่ในสาระบบพ.ร.บ. ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 หรือไม่ เมื่อทำการตรวจสอบแล้วไม่ปรากฎว่ากองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น ไม่มีอยู่ในระบบพ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ ทาง สนง.พมจ.แพร่ ทำหนังสือถึง นายชณภพ ไกรศักดิ์ นายกเทศมนตรี ต.สูงเม่น จ.แพร่ เจ้าของพื้นที่ตั้งกองทุนฯและได้เรียกฝ่าย บริหารกองทุนฯมาชี้แจงในที่ประชุมถึง 3 ครั้ง ก็ไม่ได้ข้อยุติ ถึงแม้นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือเชิญ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ผอ.กองส่งเสริมสถาบันครอบครัวและฝ่ายกฎหมาย และนายรันตะ เครือรัตน์ อัยการ จ.แพร่ ร่วมประชุมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลและเห็นว่าเข้าข่าย พ.ร.บ. ฌาปนกิจฯ แต่ฝ่ายบริหารกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น ก็ไม่เข้าสู่ระบบ อ้างอิงกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มาโดยตลอดจนทางฝ่าย นายกเทศมนตรี ต.สูงเม่น จ.แพร่ มอบหมายให้ นายอนุพงศ์ ยอดสาร นิติกรชำนาญการสังกัดเทศบาล ต.สูงเม่น จ.แพร่ เข้าร้องทุกข์ กล่าวโทษ กับพ.ต.ท. ภาษิต อินทรรุจิกุล พนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น จว.แพร่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ให้ดำเนินคดีกับ ดต.บุญเลิศ ธุระทำ ประธานฯ นายประสงค์ ขยัก รองประธานฯ นายสังคม อุ่นกาศ รองประธานฯ นายชาญณรงค์ พอจิต เลขาฯ นางสมคิด แสงสนิท เหรัญญิญฯ นายมานิต นันทะวิเชียร ฝ่ายทะเบียนฯ นายกิตติวัฒน์ เวียงนาค ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหาร กองทุนสวัสดิการฯ ทางพนักงานสอบสวน ได้ส่งคำร้องต่ออัยการ จังหวัดแพร่ อัยการจังหวัด แพร่ ส่งฟ้องศาล จังหวัดแพร่ มีการไต่สวนและมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 ได้มีคำพิพากษาว่ามีความผิด ในมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่องหรือจัดการโดยวิธีใดๆ ที่คล้ายคลึงกันให้ผู้ใดเข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ยังมิได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมาย หมวด 8 บทลงโทษ มาตรา 61 ผู้ใดดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยมิได้จดทะเบียน สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หรือขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์พระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 66 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 33 หรือมาตรา 34 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ คำพิพากษาศาลให้จำคุกจำเลย ทั้ง 7 คนเป็นเวลา 1 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท ศาลท่านมีความเมตตาว่าทั้ง 7 ท่าน ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จำคุกให้ลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 6 เดือน แต่ให้รองอาญาไว้ 1 ปี เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 09.30 น. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมได้ทำหนังสือถึงฝ่ายที่ศาลลงโทษ มาหาแนวทางตามที่ศาลสั่งว่าจะต้องเข้าจดทะเบียน ตาม พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ภายใน 90 วันหลังจากคำพิพากษาศาล ทางด้านผู้สื่อข่าว นสพ. ธุรกิจ แพร่ ได้เกาะติดกับการร้องเรียนและการสั่งการท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มาโดยตลอดว่า ต่อจากนี้ไป กองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ การบริหารเงินจะต้องอยู่ภายใต้การบริหารของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนแห่งชาติ โดยมีกฎหมายรองรับ มี สนง.พัฒนาการ จังหวัดแพร่ และ สนง.พัฒนาการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ จะต้องเข้ามาควบคุมดูแลในการบริหารเม็ดเงิน ของกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทางด้านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกับกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านฯว่าการดำเนินงานของคณะผู้บริหารกองทุนสวัสดิการฯที่ผ่านมาว่าเข้าข่ายการบริหารจัดการตามระเบียบกองทุนหมู่บ้านฯหรือไม่ การบริหารเม็ดเงินมหาศาลที่ผ่านมาว่านำเงินไปใช้ผิดกฎระเบียนกองทุนหมู่บ้านหรือ เช่นการตั้งเงินเดือนให้ผู้บริหารและการว่าจ้างพนักงานมาทำงานหรือการเบิกจ่ายเงินเกินความจำเป็นและการนำเงินไปซื้อสลากออมสินและ ธกส.เป็นต้น จะต้องตรวจสอบว่าสามารถทำได้หรือไม่? การเข้าสู่ระบบจะต้องมีการเปิดประชุมวิสามัญในจำนวนสมาชิก 20,206 คน เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อบริหารเม็ดเงินมหาศาล เมื่อเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ. ฌาปนกิจฯ จัดตั้งแล้วจะต้องนำกฎระเบียบของพ.ร.บ. ฌาปนกิจฯเป็นตัวตั้งในการบริหารกับสมาชิกฯและมีกฎหมายรองรับ เป็นนิติบุคคล จะทำให้การบริหารโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตลอด และมีคณะกรรมการอยู่ตามวาระที่กฎระเบียน พ.ร.บ.ฯ กำหนด มวลสมาชิกทุกท่าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่าขอให้สมาชิกสบายใจและมั่นใจในการนำเม็ดเงินของสมาชิกเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ. ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ให้ทุกท่านสบายใจ ส่วนที่ทางจังหวัดแพร่จะต้องเรียกประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารจัดการลักษณะเดียวกันกับกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทุกองค์กรที่จัดตั้ง จะต้องเข้ามาสู่ระบบ ทุกอำเภอ นายอำเภอทุกพื้นที่จะต้องมีการตรวจสอบและรายงานการดำเนินลักษณะแบบ อ.สูงเม่นมายังจังหวัดแพร่ ต่อไป ซึ่งถือว่าจังหวัดแพร่เป็นตัวนำร่องของจัดการดำเนินการบริหารเงินกองทุนสวัสดิการ ทั่วประเทศ ที่อ้างกฎระเบียบกองหมู่บ้านฯ อยู่ที่ว่าจังหวัดไหนบ้างที่จะสนใจเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเพราะเหตุมันยังไม่เกิด ถ้าตราบใดที่เหตุการณ์ระบบล้มลงเมื่อไหร่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนจังหวัดแพร่นับว่าโชคดี ที่มีพ่อเมืองสนใจกับการไม่ชอบมาพากล ในการบริหารกองทุนฯ จึงลุยงานด้วยตนเองจึงประสบผลสำเร็จ มวลสมาชิกทั้ง 20,206 คน อำเภอสูงเม่น จ.แพร่ ขอมอบดอกไม้น้ำใจให้กับพ่อเมืองแพร่ที่ชื่อ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์.....ด้วยความเคารพยิ่ง
จากกรณี เมื่อเดือน เมษายน 2561 มีสมาชิกกองทุน สวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ มีความสงสัยกับการบริหารของฝ่ายบริหารกองทุนฯ ไม่โปร่งใส นำเงินไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ของการบริหารจัดการและที่สำคัญมีกฎหมายรองรับหรือไม่ จึงสู่การร้องเรียน ถึงสื่อ หนังสือพิมพ์ ธุรกิจแพร่ ให้ช่วยตรวจสอบและนำเรื่องเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการ ถึงศูนย์ดำรงธรรม อำเภอสูงเม่น โดย เรืออากาศตรี อดุลย์ พรหมวาทย์ นายอำเภอสูงเม่น และร้องเรียน ไปยังศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดแพร่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ได้สั่งการให้ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด แพร่ ให้ตรวจสอบกับกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ว่าอยู่ในสาระบบพ.ร.บ. ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 หรือไม่ เมื่อทำการตรวจสอบแล้วไม่ปรากฎว่ากองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น ไม่มีอยู่ในระบบพ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ ทาง สนง.พมจ.แพร่ ทำหนังสือถึง นายชณภพ ไกรศักดิ์ นายกเทศมนตรี ต.สูงเม่น จ.แพร่ เจ้าของพื้นที่ตั้งกองทุนฯและได้เรียกฝ่าย บริหารกองทุนฯมาชี้แจงในที่ประชุมถึง 3 ครั้ง ก็ไม่ได้ข้อยุติ ถึงแม้นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือเชิญ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง ผอ.กองส่งเสริมสถาบันครอบครัวและฝ่ายกฎหมาย และนายรันตะ เครือรัตน์ อัยการ จ.แพร่ ร่วมประชุมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลและเห็นว่าเข้าข่าย พ.ร.บ. ฌาปนกิจฯ แต่ฝ่ายบริหารกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น ก็ไม่เข้าสู่ระบบ อ้างอิงกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มาโดยตลอดจนทางฝ่าย นายกเทศมนตรี ต.สูงเม่น จ.แพร่ มอบหมายให้ นายอนุพงศ์ ยอดสาร นิติกรชำนาญการสังกัดเทศบาล ต.สูงเม่น จ.แพร่ เข้าร้องทุกข์ กล่าวโทษ กับพ.ต.ท. ภาษิต อินทรรุจิกุล พนักงานสอบสวน สภ.สูงเม่น จว.แพร่ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ให้ดำเนินคดีกับ ดต.บุญเลิศ ธุระทำ ประธานฯ นายประสงค์ ขยัก รองประธานฯ นายสังคม อุ่นกาศ รองประธานฯ นายชาญณรงค์ พอจิต เลขาฯ นางสมคิด แสงสนิท เหรัญญิญฯ นายมานิต นันทะวิเชียร ฝ่ายทะเบียนฯ นายกิตติวัฒน์ เวียงนาค ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหาร กองทุนสวัสดิการฯ ทางพนักงานสอบสวน ได้ส่งคำร้องต่ออัยการ จังหวัดแพร่ อัยการจังหวัด แพร่ ส่งฟ้องศาล จังหวัดแพร่ มีการไต่สวนและมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 ได้มีคำพิพากษาว่ามีความผิด ในมาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่องหรือจัดการโดยวิธีใดๆ ที่คล้ายคลึงกันให้ผู้ใดเข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ยังมิได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมาย หมวด 8 บทลงโทษ มาตรา 61 ผู้ใดดำเนินกิจการการฌาปนกิจสงเคราะห์ โดยมิได้จดทะเบียน สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หรือขึ้นทะเบียนการฌาปนกิจสงเคราะห์พระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 66 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 33 หรือมาตรา 34 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ คำพิพากษาศาลให้จำคุกจำเลย ทั้ง 7 คนเป็นเวลา 1 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท ศาลท่านมีความเมตตาว่าทั้ง 7 ท่าน ไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จำคุกให้ลดกึ่งหนึ่ง เหลือ 6 เดือน แต่ให้รองอาญาไว้ 1 ปี เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 09.30 น. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมได้ทำหนังสือถึงฝ่ายที่ศาลลงโทษ มาหาแนวทางตามที่ศาลสั่งว่าจะต้องเข้าจดทะเบียน ตาม พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ภายใน 90 วันหลังจากคำพิพากษาศาล ทางด้านผู้สื่อข่าว นสพ. ธุรกิจ แพร่ ได้เกาะติดกับการร้องเรียนและการสั่งการท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ มาโดยตลอดว่า ต่อจากนี้ไป กองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ การบริหารเงินจะต้องอยู่ภายใต้การบริหารของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนแห่งชาติ โดยมีกฎหมายรองรับ มี สนง.พัฒนาการ จังหวัดแพร่ และ สนง.พัฒนาการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ จะต้องเข้ามาควบคุมดูแลในการบริหารเม็ดเงิน ของกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทางด้านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกับกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านฯว่าการดำเนินงานของคณะผู้บริหารกองทุนสวัสดิการฯที่ผ่านมาว่าเข้าข่ายการบริหารจัดการตามระเบียบกองทุนหมู่บ้านฯหรือไม่ การบริหารเม็ดเงินมหาศาลที่ผ่านมาว่านำเงินไปใช้ผิดกฎระเบียนกองทุนหมู่บ้านหรือ เช่นการตั้งเงินเดือนให้ผู้บริหารและการว่าจ้างพนักงานมาทำงานหรือการเบิกจ่ายเงินเกินความจำเป็นและการนำเงินไปซื้อสลากออมสินและ ธกส.เป็นต้น จะต้องตรวจสอบว่าสามารถทำได้หรือไม่? การเข้าสู่ระบบจะต้องมีการเปิดประชุมวิสามัญในจำนวนสมาชิก 20,206 คน เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อบริหารเม็ดเงินมหาศาล เมื่อเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ. ฌาปนกิจฯ จัดตั้งแล้วจะต้องนำกฎระเบียบของพ.ร.บ. ฌาปนกิจฯเป็นตัวตั้งในการบริหารกับสมาชิกฯและมีกฎหมายรองรับ เป็นนิติบุคคล จะทำให้การบริหารโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ตลอด และมีคณะกรรมการอยู่ตามวาระที่กฎระเบียน พ.ร.บ.ฯ กำหนด มวลสมาชิกทุกท่าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแพร่ ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่าขอให้สมาชิกสบายใจและมั่นใจในการนำเม็ดเงินของสมาชิกเข้าสู่ระบบ พ.ร.บ. ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ให้ทุกท่านสบายใจ ส่วนที่ทางจังหวัดแพร่จะต้องเรียกประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการบริหารจัดการลักษณะเดียวกันกับกองทุนสวัสดิการ อ.สูงเม่น จ.แพร่ ทุกองค์กรที่จัดตั้ง จะต้องเข้ามาสู่ระบบ ทุกอำเภอ นายอำเภอทุกพื้นที่จะต้องมีการตรวจสอบและรายงานการดำเนินลักษณะแบบ อ.สูงเม่นมายังจังหวัดแพร่ ต่อไป ซึ่งถือว่าจังหวัดแพร่เป็นตัวนำร่องของจัดการดำเนินการบริหารเงินกองทุนสวัสดิการ ทั่วประเทศ ที่อ้างกฎระเบียบกองหมู่บ้านฯ อยู่ที่ว่าจังหวัดไหนบ้างที่จะสนใจเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเพราะเหตุมันยังไม่เกิด ถ้าตราบใดที่เหตุการณ์ระบบล้มลงเมื่อไหร่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนจังหวัดแพร่นับว่าโชคดี ที่มีพ่อเมืองสนใจกับการไม่ชอบมาพากล ในการบริหารกองทุนฯ จึงลุยงานด้วยตนเองจึงประสบผลสำเร็จ มวลสมาชิกทั้ง 20,206 คน อำเภอสูงเม่น จ.แพร่ ขอมอบดอกไม้น้ำใจให้กับพ่อเมืองแพร่ที่ชื่อ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์.....ด้วยความเคารพยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น