นายวิฑิต เที่ยงไทย นายอำเภอวังชิ้น พร้อม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดแพร่ ปลัดอำเภอวังชิ้น, นายปลั่ง วงศ์หล้า นายก อบต.นาพูน พร้อมฝ่ายเจ้าหน้าที่ อบต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่, นายเสน่ห์ เงินมูล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2, นายประชุม เวียงคำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 พร้อมชาวบ้าน ทั้ง 2 ตำบล ที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีที่ผ่านได้ปลูกข้าวเพื่อไว้บริโภค แต่มาเจอภัยแล้งจนทำให้ไร่นาข้าวเสียกว่า 110 ไร่ มีเกษตรกรที่ปลูกข้าว 60 กว่ารายที่ได้รับความเดือดร้อน
จนเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ลงพื้นที่ ตรวจดูความเดือดร้อนของชาวเกษตรกรปลูกข้าว จึงพบว่าพื้นที่ปลูกข้าวขาดแคลนน้ำจริง ต้นข้าวเริ่มประสบปัญหาขาดน้ำ ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการเกษตรและทาง นายก อบต.นาพูน สำรวจได้ยกข้อปฏิบัติของการประกาศภัยแล้งในพื้นที่ว่า ตามกฎกระทรวงการคลังว่าด้วยการช่วยเหลือภัยพิบัติภัยแล้งของความเสียหายพืชสวนไร่นาข้าวไร่ละ 1,113 บาท แต่ทางจังหวัดจะต้องประกาศเป็นภัยพิบัติก่อน เป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้น จนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนของภัยแล้งครั้งนี้ คิดว่ารัฐจะให้ความช่วยเหลือไร่ละ 1,113 บาทนั้น ในความเป็นจริงจะต้องดูศักยภาพของ อบต.ก่อนว่าจะมีขีดความสามรถในการช่วยเหลือให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนในพื้นที่ว่าจะช่วยเหลือขั้นต่ำได้ไร่ละเท่าไหร่ และจะต้องสำรวจความเสียหายที่แท้จริง
จากการสัมภาษณ์ นายวิฑิต เที่ยงไทย นายอำเภอวังชิ้น ว่าวันดังกล่าวได้มาลงพื้นที่และได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการระดับ อบต.นาพูน ปภ.จ.แพร่ และฝ่ายปกครองตำบลนาพูน อ.วังชิ้น เพื่อชี้แจงและออกตรวจน้ำในอ่างน้ำแม่พูน อีกครั้งหนึ่ง จากการที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งที่ผ่านมาว่าทำไมยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจากไร่นาข้าวเสียหาย ดั่งที่ ผวจ.แพร่ ได้รับปากกับชาวบ้านเมื่อครั้งที่มาลงดูพื้นที่พร้อมตรวจแหล่งน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆใน อ.วังชิ้น จ.แพร่
นายวิฑิต เที่ยงไทย นายอำเภอวังชิ้นให้สัมภาษณ์ต่อ ผู้สื่อข่าว นสพ.ธุรกิจแพร่ ว่าที่ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับเงินค่าเยียวยาตามคำที่ ผวจ.แพร่ พูดถึง เพราะ จ.แพร่ ยังไม่ได้ประกาศเป็นภัยพิบัติทุกพื้นที่ ชาวบ้านเข้าใจผิดกันไปเอง ในหลักการของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยไร่นาข้าว ทาง อบต.นาพูนกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ทางชาวบ้านมายืนยันในการปลูกข้าวจริงที่ผ่านมาและจะต้องขึ้นทะเบียนกับ สำนักงานเกษตร อำเภอวังชิ้น จึงสามารถตรวจความเดือดร้อนได้ และทางอบต.นาพูน จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมในวันอังคารที่ 7 มกราคม 2563 นี้ และจะสรุปผลในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 แล้วส่งเรื่องมายังอำเภอวังชิ้น ทางอำเภอจะต้องรายงานให้ทางจังหวัดแพร่ เมื่อทางจังหวัดแพร่ ได้เห็นชอบการอนุมัติเงินให้ทาง อบต.นาพูน จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้นั้นเป็นการทำตามระบบระเบียบว่าด้วยกระทรวงฯ (กข. 01) การเบิกจ่ายเงินในระบบราชการนั้นจะต้องทำตามระเบียบทุกขั้นตอน ชาวบ้านอาจจะไม่เข้าใจในการเสนองานจึงล่าช้า ทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจ จึงต่อว่าต่อขานการทำงานในหน่วยงานราชการ
ในที่ประชุมดังกล่าวสรุปให้ความช่วยเหลือให้กับผู้เดือดร้อนที่ทำนาไร่ละ 500 บาท ชาวบ้านต่างพอใจ ให้ทาง อบต.นาพูน จ่ายเงินให้กับผู้เดือดร้อนได้ให้เร็วที่สุด ส่วนการสำรวจน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่พูน ว่าขณะนี้ น้ำมีเพียงพอต่อการนำไปผลิตน้ำประปาบริโภคได้ตลอกฤดูกาล แต่หลังวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 คาดการณ์ไว้ว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำแม่พูนจะลดลงต่ำกว่าระดับปากท่อ จะต้องนำเครื่องสูบน้ำมาสำรองสูบน้ำเข้าสู่ระบบท่อประปาเพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำประปา ในหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 10 ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ จากการสำรวจดูแหล่งน้ำและมาปรับความเข้าใจกับชาวบ้านในกรณีการช่วยเหลือผู้ประสบภัยไร่นาข้าวเสียหาย ที่ล่าช้านั้นจะต้องตรวจข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง จึงจะให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนตามที่ได้แจ้งและลงทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้
หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
แจ็ค : การตลาด
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
แจ็ค : การตลาด
ขอบคุณ คุณสวัสดิ์ บุญนาจี่ : ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น