
จากการบอกเล่าของนายนรินทร์ (จอนห์) พรมโรจน์ ที่ได้บอกญาติๆฝ่ายผู้เป็นแม่ว่า พ่อไปมีครอบครัวใหม่ที่ ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อปี 2545 ต่อมานายนรินทร์ (จอนห์ )มาบอกแม่ว่า พ่อมารับน้องไปอยู่ด้วยที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในปี 2555 ในปี 2559 ทาง นายนรินทร์ (จอนห์) พรมโรจน์ มาบอกแม่ว่า นายนราพันธ์ (บรรจง) พรมโรจน์ น้อง เกิดอุบัติเหตุถูกรถชนบาดเจ็บสาหัส พ่อจะมารับแม่ไปดูแลน้องที่เกิดอุบัติเหตุ ก่อนไปนางละเอียด และ นายนรินทร์ พรมโรจน์ ยังฝากบ้านไว้กับคนข้างบ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 2ตำบลพระหลวง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ในปลายเดือน ธันวาคม 2559 ส่วนพ่อก่อนที่จะหายตัวไปอาศัยอยู่กับนายนรินทร์ (จอนห์) พรมโรจน์ ที่บ้านเลขที่ 172/5 หมู่ที่ 4 ตำบลดอนมูล อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ซึ่งเปิดร้านจำหน่ายยางรถยนต์ ถนนยันตรกิจโกศล สาย 101 เยื้องโรงเรียนสูงเม่นชนูปถัมภ์ ส่วนนายนรินทร์ (จอนห์ ) พรมโรจน์ จะไปๆมาๆ ระหว่างบ้านพ่อและแม่ ที่ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ จนกระทั้ง มี ญาติผู้น้องนางละเอียด เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว จึงให้นายนรินทร์ (จอนห์) พรมโรจน์ ช่วยไปตามหรือโทรศัพท์ไปบอกนางละเอียด พรมโรจน์ ที่เป็นพี่สาวผู้เสียชีวิตได้มาร่วมงานฌาปนกิจศพดังกล่าว จากการบอกเล่าของญาติฝ่ายนางละเอียด พรมโรจน์ ว่านายนรินทร์ (จอนห์) พรมโรจน์ อ้างว่าจำทางไม่ได้ที่อยู่ของพ่อ แม่และน้อง ขอเบอร์โทรศัพท์มาก็ไม่สามารถติดต่อบุคคลทั้ง 3 ได้
ญาติๆฝ่ายนางละเอียด พรมโรจน์ จึงนำการสู่เข้าแจ้งทุกข์คนหาย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ต่อ ร.ต.อ.วรวุฒิ โปรธาตุ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.สูงเม่น จว.แพร่ ที่ผ่านมาทางหน่วยงานทุกฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานทุกรูปแบบ เช่นทางญาติสงสัยในการหาหลักฐาน ในน้ำบ่อ ก็นำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำในบ่อก็ไม่เจออะไร นำรถดูดสิ่งปฏิมูล (ดูดส้วม) ก็ทำตามที่ญาติผู้สูญหายร้องขอ ทำตามทุกขั้นตอนของการทำงานเจ้าหน้าตำรวจที่รับผิดชอบ นำกองพิสูจน์หลักฐาน จว.แพร่ มาเก็บข้อมูลทุกระเบียบ จนนำนายนรินทร์ (จอนห์) มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกายก็ไม่เจอผลการตรวจสารเสพติด
ทางด้าน นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้รับทราบจากการรายงานของ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เน้นย้ำกับการหายตัวของบุคคลทั้ง 3 ว่า นับว่าเป็นสิ่งที่สะเทือนขวัญสำหรับชาวจังหวัดแพร่และผู้คนที่ทราบข่าวนี้ เพราะไม่ทราบว่า คนทั้ง 3 ชีวิตจะอยู่หรือไม่ นั้นเป็นประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจะต้องหาคำตอบให้กับญาติๆผู้สูญหายและเคลือบแคลงสงสัยให้ได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ยังฝากข่าวกับนักข่าว นสพ.ธุรกิจแพร่ ว่าขอเป็นกำลังใจ ให้กับญาติๆผู้สูญหายและจะพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลเรื่องดังกล่าว หาพยานหลักฐานและหาความเป็นจริงให้ปรากฎให้ได้ ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายยังไม่ลดละความพยามที่จะต้องค้นหา พยานหลักฐานต่างๆของบุคคลทั้ง 3 เพราะการค้นหาพยานหลักฐานที่จะพบยากนั้น เป็นเพราะเวลาที่เนิ่นนาน หลักฐานบางอย่างก็ไม่ปรากฏเด่นชัด จึงไม่สามารถที่จะฟันธงหรือชี้ชัดว่า ทั้ง 3 ชีวิตจะยังอยู่หรือสาบสูญหายไป เมื่อสาบสูญหายไปจริงหลักฐานต่างๆจะอยู่ตรงจุดไหน คำถามที่หาคำตอบยากกับการค้นหาหลักฐาน และใครล่ะ? ที่ให้คำตอบที่ชัดเจน ทางเจ้าหน้าตำรวจภูธรสูงเม่น จังหวัดแพร่ ยังฝากความหวังไว้กับท่านใดที่มีเบาะแสหรือมีข้อมูลกับบุคคลทั้ง 3 สามารถที่จะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สภ.สูงเม่น จว.แพร่ หรือ 054-542005 ได้ทุกวัน

หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น