จากกรณีที่มีชาวบ้าน ใน ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ ได้ยืนหนังสือถึง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา จากผลกระทบของการทำเหมืองแร่ เบลไลน์( Bellene ) ของบริษัท เหมืองศศิน จำกัด ในพื้นที่บ้านศรีใจ หมู่ที่ 8 และ บ้านอิม หมู่ที่ 5 ต. ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ ได้เปิดทำการมานับสิบปี ในพื้นที่ดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในชุมชน ทั้งฝุ่นละออง สายน้ำ ถนนหนทาง และวิถีชีวิตของคนในชุมชนเปลี่ยนไป จึงมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบพยายามเคลื่อนไหวมานานนับปีที่เห็นการดำเนินงานของบริษัท เหมืองศศิน จำกัด ได้สร้างปัญหาให้กับชุมชนดังกล่าวมาโดยตลอด เมื่อมีการแจ้งเตือนจากผู้นำชุมชนถึงความเดือดร้อนของชุมชนที่ได้กล่าวมาข้างต้นทางบริษัทฯ รับปากว่าจะแก้ไขปัญหาก็ไม่มาแก้ไขปัญหาให้ ถ้าจะมาแก้ไขก็จะใช้เวลาเนินนาน ทำไปแบบขอไปที่ จน ณ.เวลาเนินวันเข้าการเกิดปัญหาก็ลุกลาม จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งความเป็นอยู่ในวิถีชีวิตในชนบทเปลี่ยนไป เรื่องของน้ำที่นำมาทำการเกษตรในสายห้วยแม่ส้วก ถือว่าเป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชาวบ้านต้าผามอกมาตั้งแต่บรรพบุรุษก็เปลี่ยนไปจะใช้ทำน้ำประปาก็ไม่ได้ จะลงไปเล่นน้ำในลำห้วยแบบดั่งเดิมก็ไม่ได้จะทำให้คันเป็นผืนคันตามตัวเมื่อไปสัมผัสกับน้ำในลำห้วยส้วก เพราะทางเหมืองแร่ปล่อยน้ำล้างแร่ลงในลำห้วยส้วก ปู ปลาที่อยู่ในลำห้วยฯไม่มีเหมือนดั่งเดิม เรื่องฝุ่นละอองฟุ้งกระจายในพื้นที่มีรถขนแร่วิ่งผ่าน ทำให้ถนนภายในหมู่บ้านชำรุดเสียหาย จึงทำให้การเป็นอยู่ของคนในชุมชนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับสิ่งแวดล้อมผืนป่าที่อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดก็โดนโคนทิ้ง ป่าที่เขียวขจีก็เป็นพื้นที่กองเศษดินและขี้แร่ ที่ชะล้าง ในพื้นป่าดังเดิมชาวบ้านจะเข้าไปหาเห็ด หาหน่อไม้ มายังชีพและนำมาค้าขายเหมือนดั่งเดิมก็ไม่สามารถเข้าไปหาของป่าไม่ได้เพราะทางบริษัทปิดกั้นและไม่มีสิ่งเหล่านี้เหลือให้ชาวบ้านและลูกหลานในอนาคตได้สัมผัสอีกต่อไป แต่สำคัญทางบริษัทฯยังได้ยืนขอสัมปทานต่อจากที่เดิมที่ผืนป่าติดกันที่ได้สัมปทานแล้วอีก 260 กว่าไร่ จึงเป็นที่มาที่ไปของเรียกร้องให้บริษัทฯหยุดการดำเนินการขุดเหมืองแร่ในผืนป่าที่จะขอสัมปทานใหม่ ให้ดำเนินการเฉพาะที่ขอสัมปทานแล้วเท่านั้น และให้แก้ไขตามข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบดังกล่าวหรือให้ผลกระทบน้อยที่สุด การเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวไม่มีแกนนำเช่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือสมาชิก อบต.ของคนในพื้นที่เลย ชาวบ้านเลยทำให้ขาดความเชื่อถือกระบวนการของฝ่ายรัฐและฝ่ายปกครอง จึงนำขอเรียกร้องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในวันที่ 25 ต.ค. 2561 ทางฝ่ายจังหวัดแพร่ ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ.ที่ทำการ ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอลอง พ.อ.(พิเศษ) พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.ภายในราชอาณาจักร กรุงเทพมหานคร นายวีระ เงินวิลัย ผอ.สนง.ทสจ.แพร่ นายภูษิต พรหมมาณพ ผอ.สวป.ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ นายชัยรัตน์ แสงปาน ผอ.ป้องกัน ปป.ที่ 3ภาคเหนือ นายสมชาย ฉิมแย้ม ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร นายโสภณ สุรภี หน.อุตสาหกรรมพื้นฐานเหมืองแร่ จ.แพร่ นางดรุณี รักษ์วงศ์ พาณิชย์ จ.แพร่ ร.ท. ชาญชัย ขัดแก้ว กอ.รมน.จ.แพร่ ส.อ. พนม สมนึก ผช.ป้องจังหวัดแพร่ เจ้าหน้าทีทหาร ม.12 อ.เด่นชัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ลองจ.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เวียงต้า อ.ลอง จว.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4บก.ปทส.เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลต้าผามอกได้ร่วมกันสอบสวนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการดำเนินงานตามกฎระเบียบและตามกฎหมาย ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงในการดำเนินงานมาโดยตลอดพร้อมหลักฐานการได้มาซึ่งได้มาทำการสำรวจลงพื้นที่ ตั้งแต่มีชาวบ้านได้มาร้องเรียน ทางด้าน พ.อ.(พิเศษ)พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดฯ ได้ชักถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด หลังจากที่ได้ข้อมูลทาง พ.อ.(พิเศษ) พงษ์เพชรฯ จึงพาหน่วยงานทุกภาคส่วนลงไปสำรวจพื้นที่ในเหมืองแร่ศศิน จำกัด ซึ่งอยู่ห่างจาก อบต.ต้าผามอก ที่ประชุมประมาณ 7 กิโลเมตรกว่า ได้เข้าสอบถามผู้จัดการเหมืองฯและเจ้าของด้วยตนเอง ทางฝ่ายผู้จัดการนำคณะสำรวจเดินดูรอบเหมืองฯของการดำเนินงานและการขุดเจาะหาแร่บิลไลน์ (Belline) จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว นสพ.ธุรกิจแพร่ ว่า สันเขาที่มีการจะหาแร่เป็นเขาที่สูงชันมากและถูกการระเบิดมาแล้วหลายภูเขาพร้อมมีเครื่องจักรกลหนักและเบาตั้งสง่าพร้อมทำงานได้ตลอดเวลา จุดสำคัญที่ลำเหมืองแม่ส้วก เป็นลำเหมืองที่ได้รับผลกระทบกับสายน้ำที่เป็นลำเหมืองหล่อเลี้ยงชาวบ้านใน ต.ต้าผามอกและอีกหลายตำบล ใน อ.ลองจากกรณีที่ทางเหมืองแร่ฯได้ปล่อยน้ำเสาะล้างแร่ลงไปในลำเหมืองแม่ส้วก จึงทำให้สายน้ำขุ่นและมีสารพิษทำให้การนำน้ำไปใช้ดั่งแต่เดิมไม่ได้ ปลา หอยสัตวน้ำในลำเหมืองไม่มีให้เห็นและจับมา บริโภคได้เหมือนดั่งเดิม ทางฝ่ายคณะตรวจสอบจึงตั้งครื่องทำพิกัดฯจึงรู้ว่าทางบริษัทฯได้รุกเข้าไปในลำเหมืองนอกเหนือจากที่ที่ดินได้สัมปทาน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับบริษัทฯและคนขับรถแบ็คโฮ ของบริษัทฯ แต่มีข้อที่ชาวบ้านหวั่นวิตกว่า ณ.เวลานี้ทางบริษัทฯได้ยืนหนังสือขอสัมปทานพื้นที่ต่อจากทีเดิมซึ่งมีเนื้อที่กว่า 260ไร่ เป็นภูเขาทั้งลูกสูงชันกำลังรอการพิจารณาอนุมัติใบสัมปทาน ชาวบ้านจึงมีการร้องเรียนหวั่นว่าภูเขาที่เหลืออยู่ในบริเวณดังกล่าวจะหายไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกเลิกและไม่ต่อสัญญาการทำเหมืองฯหรือให้ทำเฉพาะที่ได้สัมปทานแล้วก็ต้องเลิกการทำเหมืองแร่ในเขตพื้นที่ดังกล่าวในที่สุด เพราะตั้งแต่มีการสัมปทานทำเหมืองแร่ฯมาทำให้วิถีชีวิตชาวบ้านเปลี่ยนไปและทำให้สิ่งแวดล้อมมีมลพิษหลายๆรูปแบบ จึงวิงวอนขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องสนใจและมีความจริงใจกับสิ่งธรรมชาติและชาวบ้านโดยเฉพาะภูเขาที่เกิดขึ้นมาแล้วนับล้านๆๆปี แต่ทางรัฐหวังผลประโยชน์ภาษีเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายกับสิ่งธรรมชาติจะหมดไปโดยรัฐไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้เลย ไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดแพร่ยังมีอีกทั่วฟ้าเมืองไทยที่มีวัตถุดิบแร่ที่มีผลประโยชน์มหาศาล แต่รัฐไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังปล่อยให้หน่วยงานที่อยู่ระดับล่างมาตรวจสอบหรือให้หน่วยงานระดับล่างเสนอเรื่องขึ้นไป อย่าลืมว่าหน่วยงานระดับล่างจะต้องกิน ต้องใช้และอยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น นั้นเท่ากับว่าการดำเนินการของ บริษัทหรือการทางเข้าสู่กระบวนการย่อมจะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นผลพวงให้คนในพื้นที่เดือดร้อนและอกตรมมาโดยตลอด แต่ก็มีบ้างโครงการที่สร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติและชาวบ้านในพื้นที่ในเรื่องของการอยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง จึงขอให้หน่วยงานรัฐมีความจริงใจ มีจิตสำนึกที่เคารพต่อสิทธิชนและความซื่อสัตย์ของหน่วยงาน ทุกพื้นก็จะอยู่ด้วยกันความสงบสุขและมีความสุขกันต่อไป.....
วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Home
Unlabelled
การคัดค้านการให้สัมปทานเหมืองแร่ ใน อ.ลอง
การคัดค้านการให้สัมปทานเหมืองแร่ ใน อ.ลอง
Share This
About phraebusines
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น