โดยการนำ หมวดเอกพนม สมนึก ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดแพร่ สมาชิ อส.ร้อย บก.บร.บก.อส.จ.แพร่ สมาชิก อส. อ.เด่นชัย ผรส.ม.10 ต.แม่จั๊วะ เจ้าหน้าที่ป่าไม้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้พิเศษ สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ ชุดพยัคฆ์ไพรเคลื่อนที่เร็ว ชุดที่ 4 กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ พร.12 (แม่จั๊วะ) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เด่นชัย ได้เข้าตรวจค้นจุดเป้าหมายที่มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ ในหมู่ที่ 10 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งเป็นเขตป่าห้วยแม่จั๊วะ การตรวจค้นในพื้นที่ดังกล่าว พบไม้สักที่ตัดเป็นท่อนๆจำนวน 30 ท่อน ปริมาตร 1.32 ลบ.ม. แต่ไม่พบผู้กระทำความผิดและไม่มีใครรับเป็นเจ้าของไม้สักดังกล่าว
เป็นที่สังเกตว่าการตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.เด่นชัยและที่จุดเดิมทั้งสิ้น การตรวจพบไม้ของกลางในลักษณะแบบนี้ทุกครั้ง ถามว่าเคยจับผู้กระทำความผิดได้หรือไม่ ตอบว่าไม่เคยจับผู้กระทำความผิดมาได้เลย เมื่อเจ้าที่ชุดปฎิบัติการจับกุมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เด่นชัย ทางชุดปฏิบัติการฯก็หมดหน้าที่แต่จะไปสานต่อ ไถ่ถามผลการติดตามหาผู้กระทำความผิดหรือไม่ ? แล้วทางเจ้าที่ตำรวจที่รับคดี จะสนใจหรือติดตามหรือไม่ นั้นคือประเด็นที่ ทุกฝ่ายจะต้องทำงานแบบบูรณาการ คือต้องเข้มงวดกวดขันกับการหาผู้กระทำความผิดนำมาลงโทษให้ได้ แต่ถ้าไม่ทำงานแบบบูรณาการดังที่กล่าว การตรวจยึดไม้ที่ถูกลักลอบตัดก็จะไม่มีที่สิ้นสุด เสียดายงบประมาณ เสียดายกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ และเสียดายความรู้สึกของผู้ร้องเรียนที่เห็นขบวนการมอดไม้ลักลอบตัดไม้ บ่อนทำลายสิ่งแวดล้อมและทำลายพื้นป่าที่จะค่อยดูดกักเก็บน้ำในฤดูฝน ข่าวลักษณะเช่นนี้มีให้ทุกท่านได้อ่านและได้เห็นการปฏิบัติหน้าที่ชุดตรวจยึดทุกครั้งทีทำงานกันแบบดั่งที่ภาพปรากฎ แต่เมื่อ วัน เวลา ผ่าน ทุกอย่างก็เงียบหายไป
หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น