ทางรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้มาตรการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้เพื่อจะคุมสถานการณ์ของแพร่เชื้อระบาดไวรัสโควิด-19 จนประการเคอร์ฟิวส์ ห้ามออกนอกบ้าน ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ถึง 04.00 น.ของรุ่งวันใหม่ การควบคุมเข้มเป็นที่หน้าพอใจในระดับหนึ่งของรัฐบาล ในภาครวมหลายจังหวัดมีการปิดการห้ามออกหลายจังหวัด แต่ในส่วนจังหวัดแพร่ ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแพร่ ที่6/2563 เรื่องปิดสถานที่ชั่วคราวเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือโควิด19 (เพิ่มเติม) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา22มาตรา35แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อกับข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่1 ) ข้อ1การห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง ข้อ10 วรรคสองและวรรคสามดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด 19 ให้เป็นไปมีประสิทธิ์ภาพโดยคำนึงถึงโอกาสในการติดโรคและความจำเป็นของประชาชน คณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดแพร่ ในคราวประชุม ครั้งที่ 7/2563 เมื่อวันที่9เมษายน2563 ได้พิจารณาร่วมกันแล้ว มีความเห็นว่า เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาในจังหวัดแพร่ อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ จังหวัดแพร่ จึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและคัดกรองประชาชนที่จะเดินทางเข้าสู่จังหวัดแพร่ และนำเนินการมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จึงมีมติเห็นชอบให้จังหวัดแพร่ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคติดต่ออันตราย(เพิ่มเติม)
1. ให้ปิดสถานที่หรือพื้นที่จำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ โดยให้ร้านค้าหรือสถานที่ประกอบการขายสุรา ประเภทที่1 และประเภทที่2 ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 หรือร้านประกอบการขายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ ที่ไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมายข้างต้น ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก หรือให้ สุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แก่บุคคลใด เว้นแต่ การจำหน่าย จ่ายแจก หรือให้สินค้าอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 11 เมษายน 2563 ถึง20 เมษายน 2563
2. ให้ปิดโรงแรมทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 และสถานประกอบการให้ลักษณะเดียวกัน ทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดแพร่ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน2563 ถึง 30 เมษายน 2563 หากโรงแรมใดหรือสถานประกอบในลักษณะเดียวกันมีความประสงค์จะเปิดให้บริการต่อไปให้ทำแผนการปฏิบัติเพื่อป้องกันการป้องการแพร่ของโรคติดเชื้อโควิด19 ยื่นต่อที่ทำการปกครองอำเภอแห่งท้องถิ่นที่ที่โรงแรมนั้นตั้งอยู่โดยต้องมีความเห็นจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ หรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ ให้ความเห็นชอบก่อนจึงพิจารณามีคำสั่งอนุญาต เป็นรายๆไป ตามความจำเป็นแห่งกรณี เว้นแต่โรงแรมหรือสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันนั้นมีผู้เข้าพักอยู่ก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ให้พักต่อไปได้ เมื่อผู้เข้าพักแจ้งออกจากห้องจนหมดแล้วให้ปิดในทันที่โดยไม่มีการรับเข้าพักใหม่อีก และเพื่อประโยชน์ในการคัดกรองโรค ให้โรงแรมหรือสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันกันที่ยังมีผู้เข้าแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้อำเภอทราบเพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน
1. ให้ปิดสถานที่หรือพื้นที่จำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ โดยให้ร้านค้าหรือสถานที่ประกอบการขายสุรา ประเภทที่1 และประเภทที่2 ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสุราตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 หรือร้านประกอบการขายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ ที่ไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมายข้างต้น ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก หรือให้ สุราหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แก่บุคคลใด เว้นแต่ การจำหน่าย จ่ายแจก หรือให้สินค้าอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 11 เมษายน 2563 ถึง20 เมษายน 2563
2. ให้ปิดโรงแรมทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 และสถานประกอบการให้ลักษณะเดียวกัน ทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดแพร่ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน2563 ถึง 30 เมษายน 2563 หากโรงแรมใดหรือสถานประกอบในลักษณะเดียวกันมีความประสงค์จะเปิดให้บริการต่อไปให้ทำแผนการปฏิบัติเพื่อป้องกันการป้องการแพร่ของโรคติดเชื้อโควิด19 ยื่นต่อที่ทำการปกครองอำเภอแห่งท้องถิ่นที่ที่โรงแรมนั้นตั้งอยู่โดยต้องมีความเห็นจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ หรือสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ ให้ความเห็นชอบก่อนจึงพิจารณามีคำสั่งอนุญาต เป็นรายๆไป ตามความจำเป็นแห่งกรณี เว้นแต่โรงแรมหรือสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันนั้นมีผู้เข้าพักอยู่ก่อนคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ให้พักต่อไปได้ เมื่อผู้เข้าพักแจ้งออกจากห้องจนหมดแล้วให้ปิดในทันที่โดยไม่มีการรับเข้าพักใหม่อีก และเพื่อประโยชน์ในการคัดกรองโรค ให้โรงแรมหรือสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันกันที่ยังมีผู้เข้าแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้อำเภอทราบเพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน
หากผู้ใดมีอาการที่เข้าข่ายเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสวิด 19 จะต้องถูกส่งแยกกักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดแพร่ได้เตรียมไว้ ผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามต้องรับโทษตามมาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมีความผิดมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรการควบคุมเข้มอีกมาตราหนึ่ง
จังหวัดแพร่ ได้มีการตั้งด่านรอบนอกในทุกพื้นที่ เช่นมีการตั้งด่านทุกตำบล ในพื้นจังหวัดแพร่และมีการจัดตั้งจุดตรวจเคลื่อนที่เร็วทุกหมู่บ้าน เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2563 ให้ทุกอำเภอในพื้นที่จังหวัดแพร่ จะต้องมีมาตรการและปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีอำนาจ และด่านจุดคัดกรองที่ทางจังหวัดแพร่ ได้ดำเนินมาแล้ว 4 จุดและได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุดที่ด่านนางฟ้า สามแยกเข้าอำเภอสองขาขึ้น และได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ ทหารและตำรวจ ขึ้นไปอีกทุกจุด ในส่วนภาคประชาชนในพื้นที่ สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องมีจิตสำนึกของการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบ จะต้องเชื่อฟังและไม่สร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ ถ้าทุกคนในพื้นที่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตนตามที่ทางการขอร้อง การควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด19 ก็จะควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสฯได้ตามเป้าหมายและสิ่งสำคัญประชาชนทุกพื้นที่จะต้องมีจิตสำนึก ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังต่อสู้กับเจ้ามฤตยูที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์คือบุคคลที่สำคัญเขาเหล่านั้นเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องผจญกับศัตรูมองไม่เห็นเป็นกลุ่มแรก การเชฟการติดเชื้อไวรัสกับบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จึงมองจุดนี้ว่าจะต้องเชฟบุคลากรทางการแพทย์ทุกรูปแบบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแพร่ จึงมีความห่วงใยชาวจังหวัดแพร่ ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายและปฏิบัติตามคำสั่งการที่ทางจังหวัดแพร่ได้ออกกฏระเบียบไป ทุกคนก็จะพ้นภัยกับการติดเชื้อไวรัสโควิด19 ในไม่ช้าทุกอย่างก็เข้าสู่ปรกติ นั้นหมายถึง ชาวจังหวัดแพร่ ชนะเจ้ามฤตยูเชื้อไวรัสโควิด19 ไปพร้อมกัน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาวจังหวัดแพร่ เสียงตบมือของทุกท่านเป็นเอกลักษณ์และกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ สู้ สู้ สู้ และ สู้ ไปพร้อมกัน
หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น