รอง นายก เทศบาลเมืองแพร่รับไม้ต่อ - Phrae Business

Phrae Business

หนังสือพิมพ์ ธุรกิจแพร่

Breaking

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563

รอง นายก เทศบาลเมืองแพร่รับไม้ต่อ

วันที่ 17เมษายน 2563 เวลา 11.20 น.นายอดิศร ถิ่นทิพย์ ประธานชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดแพร่ นักข่าว T.V. ช่อง 7 สี, อัมรินทร์ T.V. พร้อม บ.ก.หนังสือพิมพ์ธุรกิจแพร่-ออนไลน์ เลขานุการชมรมผู้สื่อข่าว จังหวัดแพร่และสมากชิกชมรมฯ เข้าพบกับ นายพัฒน์พงษ์ พงษ์นวล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ ( รักษาการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ ) ในเรื่องที่มีสมาชิกสวัสดิการอำเภอเมืองแพร่ ได้ให้ทางชมรมผู้สื่อข่าว จังหวัดแพร่ ตรวจสอบการบริหารจัดการความเป็นไปมาว่าเข้าสู่ระบบของ พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 หรือไม่ 
จากการเข้าพบและทางด้าน รักษาการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ ในเรื่องดังกล่าว ว่าทางเทศบาลไม่ได้รับการประสานงานจากองค์กรดังกล่าวเลย และเมื่อได้รับหนังสือสั่งการจากรักษาการแทนนายอำเภอเมืองแพร่ ที่ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ นำเสนอต่อ ดร.กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ประธานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ จึงได้สั่งการตามขั้นตอนมายังนายทะเบียนโดยตำแหน่ง คือนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ เพราะสถานที่ตั้งอยู่ที่ 10 ถนนเหมืองหลวง (ตรงข้ามกับ ร.ร.เมธังกราฯเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เป็นเขตพื้นที่ของสำนักงานเทศบาลเมืองแพร่ ฉะนั้นการตรวจสอบหรือมีหนังสือให้ฝ่ายผู้บริหารกองทุนสวัสดิการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เข้ามาสู่ระบบตามกฎหมาย มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการโดยพิธีใดๆ ที่คล้ายคลึงกันให้ผู้ใดเข้ามาเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ยังมิได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฏหมาย และมาตรา 34 ห้ามมิให้ให้ผู้ใดชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้อื่นเข้าเป็นสมาชิกในสมาคมฌาปนกิจเคราะห์ โดยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินหรือทรัพย์สินอื่น ไม่ว่าจะเป็นสินจ้างหรือค่าใช้จ่ายอื่นจากการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการ เป็นกฏหมายที่การบริหารจัดการในลักษณะที่เก็บเงินคนเป็นไปช่วยคนตาย ไม่ว่าจะเก็บกี่บาท กี่ร้อย ก็จะเข้า พ.ร.บ.ฌาปนกิจเคราะห์ พ.ศ.2545 
ถ้าเปรียบเทียมกับกองทุนสวัสดิการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯทุกพื้นที่ทั้งในจังหวัดแพร่และทั่วประเทศ ในลักษณะเช่นนี้ถือว่าผิด พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 มีข้อเปรียบเทียบ ในคำตัดสินศาลจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562 ที่อัยการจังหวัดแพร่ ได้ยืนคำร้องฟ้องต่อศาลจังหวัดแพร่ ของผู้บริหารกองทุนสวัสดิการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อำเภอสูงเม่น มีผู้บริหาร 7 คน เมื่อศาลรับฟ้องและมีคำพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 7 คนมีความผิดตามพระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 มาตรา 33, 61, 66 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83 ความผิดฐานชักชวนบุคคลอื่นเข้ามาเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ยังไม่จดทะเบียนและฐานร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยมิได้จดทะเบียนมีโทษเท่ากัน จึงลงโทษฐานร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยไม่จดทะเบียน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จึงตัดสินจำคุกบุคคลทั้ง 7คนและปรับเป็นเงิน แต่ศาลให้มีบรรเทาโทษ ให้โทษรอลงอาญาและปรับ เหมือนเดิม นั้นเป็นคดีที่มีการบริหารจัดการในลักษณะเดียวกันกับคำพิพากษา 
ในความเป็นจริงคำว่าสวัสดิการ ที่ทางกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนแห่งชาติระบุ ข้อที่ 6 (3) ที่ว่าเชื่อมโยงกิจการการบริหารจัดการเงินทุน ระบบสวัสดิภาพ สวัสดิการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก ตลอดจนองค์การเงินย่อยอื่นๆ และข้อ 9 (5) ส่งเสริม พัฒนา และการเชื่อโยงการบริหารจัดการด้านเงินทุน สวัสดิการสงเคราะห์ ระบบสวัสดิภาพ สวัสดิการของสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและประชาชนในชุมชน เป็นกฏระเบียบของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ แต่เจตนาของคณะกรรมการบริหารแต่ละหมู่บ้านแปรคำว่าสวัสดิการผิดเพี้ยน สวัสดิการ ความหมายคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ตราบใดที่กองทุนสวัสดิการจัดเก็บเงิน นาย ก.ไปช่วย นาย ข.ในยามเสียชีวิตจะน้อยหรือมากนั้นผิด พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ทันที 

เป็นข้อคิดที่ทางทีมงามหนังสือพิมพ์ธุรกิจแพร่-ออนไลน์ ให้ทุกท่านรับทราบว่าการบริหารจัดการในลักษณะเช่นนี้ผิดหรือถูก ให้ท่านตัดสินใจดู ส่วนในทางด้านรักษาการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ ได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารจัดการ สวัสดิการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอำเภอเมืองแพร่ แล้วว่าทางผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร อยู่ที่ทางรักษาการแทนนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ จะเป็นผู้ไขคำตอบกับความถูกต้องให้กับสังคมรับทราบ ในนามชมรมผู้สื่อข่าว จังหวัดแพร่ มีหน้าทีติดตามข่าวสารให้กับมวลสมาชิกกองทุนสวัสดิการเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านอำเภอเมืองแพร่ ตามที่ท่านได้ร้องเรียนมาเท่านั้น อำนาจและผลสำเร็จอยู่ที่ นายทะเบียนในพื้นที่ เสียงตบมือทุกท่าน คือกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ทั่วฟ้าเมืองไทยและทั่วโลก สู้ สู้ สู้ เท่านั้นจะชนะโรคโควิด-19 เชื่อฟังคำแนะนำทางการแพทย์ทุกคนปลอดภัยจากโรคโควิด-19 แน่นอน


หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว    
เบียร์ : เรียบเรียง 
เฟรน : กราฟิก 
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Pages