เวลา 03.30 น. วันอาทิตย์ ที่ 9
ธันวาคม 2561
จังหวัดแพร่ ร่วมกับสมาคมวิ่งเพื่อสุขภาพ จังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมจัดกิจกรรม
วิ่งฝ่าสายหมอก แพร่มาราธอน ครั้งที่ 18
ณ. ลานวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ มียอดผู้สมัคร 3200 คน
ไม่นับรวมผู้ที่ไม่ได้ร่วมสมัครมาร่วมวิ่งประมาณ 300 กว่าคน
รวมทั้งสิ้น 3500 คน แบ่งเป็นประเภท
4
ประเภท คือ ระยะทาง 42.195 กม. ( Full Marathon )
ระยะทาง 21.110 กม. ( Half Marathon )
ระยะทาง 10.5 กม. ( Mini Marathon ) และ
ระยะทาง 5 กม. ( Funrun )
จุดสตาร์ท ( Start
Finish )
หน้าซุ้มประตูขึ้นพระธาตุช่อแฮฯ ในเวลา 03.30 น. ปล่อยตัวนักกีฬาวิ่งระยะ 42
กม. โดย นาย กำพล โปร่งใจ นายกสมาคมวิ่งเพื่อสุขภาพ จังหวัดแพร่ จำนวน 350 คน
ในเวลา 05.10 น. นายพงศ์รัตน์
ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และ นางศลิษา ภิรมย์รัตน์
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ ได้เดินมาถึงสถานที่ลานจุดสตาร์ทวิ่ง
และปล่อยตัวนักกีฬาวิ่งระยะ 21 กม. ในเวลา 05.45 น. จำนวน 475 คน
จนถึงเวลา 06.00 น. พิธีเปิดเป็นทางการของ
กิจกรรม วิ่งฝ่าสายหมอก แพร่มาราธอน ครั้งที่ 18 โดย นายกำพล โปร่งใจ
นายกสมาคมวิ่งเพื่อสุภาพ จังหวัดแพร่
เป็นผู้กล่าวรายงานในการจัดงานฯ และวัตถุประสงค์ในครั้งนี้ และมีผู้ร่วมในงาน ประกอบด้วย
นางสาว เกสร ปลาลาศ นายก ทต.ช่อแฮ นายสงค์ศักดิ์ คำดี ผอ.สนง.การกีฬาแห่งประเทศไทย
จังหวัดแพร่ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีตัวแทนจากรองผู้ว่าบังคับการตำรวจภูธร
จังหวัดแพร่ และ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายกสมาคมกีฬาจังหวัดแพร่และ รองหน.พรรคประชาธิปัตย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าวเปิดงานกิจกรรมวิ่ง
แพร่มาราธอนฯ แล้วปล่อยตัวนักกีฬาวิ่งระยะ 10 กม. จำนวน 1,174 คนต่อจากนั้นเวลา 06.15 น.ปล่อยตัวนักกีฬาวิ่ง - เดิน
ระยะทาง 5
กม. จำนวน 1,037 คน
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระธาตุช่อแฮ สภ.เมืองแพร่ สภ.ห้วยม้า
มาอำนวยความสะดวกในเรื่องการจราจร ตามจุดต่างที่ได้ประสานงานไว้และ
มีหน่วยรถพยาบาล โรงพยาบาลแพร่ จำนวน 3 คัน พร้อมแพทย์และพยาบาล ประจำรถและจุดต่างๆ
มีคณะกรรมการสมาคมวิ่งฯให้การดำเนินงานตามขั้นตอนของการจัดงาน
ในขณะที่ปล่อยตัวนักวิ่งฯมีฝนปรอยๆลงมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้กับนักวิ่งและการจัดงานฯ
นักวิ่งระยะทาง 5
กม. ได้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในเวลาต่อมา นักวิ่งระยะทาง 10 กม. ได้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกเช่นกัน
ส่วนนักวิ่งระยะทาง 42
กม. คือ นายแดน ใจซื่อ จากจังหวัด เชียงใหม่ ใช้เวลา 3.5 ชั่วโมงเข้ามาเป็นคนแรก ส่วนประเภทหญิง นางอรสา ตันจารุพงศ์ ใช้เวลา 3.45 น. จากจังหวัดแพร่ ได้เข้ามาเป็นคนแรก
วิ่งระยะทาง 21 กม. คือ นายสุวิทย์ แก้วคำปัน ฝ่ายหญิง น.ส. นิตยา สงวนศักดิ์ วิ่งระยะทาง 10 กม. วิ่งระยะทาง
5 กม.(ข้อมูลไม่มี)
และนักวิ่งแฟนซี ก็มีหลากหลายประเภทเช่นกัน สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งฝ่าสายหมอก
แพร่มาราธอน ครั้งที่ 18 ได้มีเด็กอายุน้อยที่สุดเพียง
8 ปีและสูงสุด
79 ปี และมีการมอบถ้วยรางวัลและเหรียญตามที่คณะกรรมการกำหนด
การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก จังหวัดแพร่ การกีฬาแห่งประเทศไทย
จังหวัดแพร่ สมาคมกีฬาจังหวัดแพร่ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เทศบาลตำบลช่อแฮ
เทศบาลเมืองแพร่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานแพร่ หอการค้าแพร่
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมกีฬาวิ่งเพื่อสุขภาพจังหวัดแพร่
สำนักสลากกินแบ่งรัฐบาล สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
สมาพันธ์และมูลนิธิสมาพันธ์ ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุภาพไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดแพร่ บริษัท, ห้าง, ร้านและเอกชนให้การสนับสนุน
ถือว่าได้ลุล่วงไปด้วยดี มีการนำเงินมาใช้จ่ายระหว่างนักท่องเที่ยวและนักวิ่งฯหมุนเวียนในวันที่ 8 - 9
ธันวาคม 2561
เกือบจะ 20
ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวและนักวิ่งทั้งภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกและชาวต่างชาติ ได้เข้ามาในวันดังกล่าวนับ หมื่นคน และจังหวัดแพร่
จึงมีผู้คนได้มาท่องเที่ยวโดยเฉพาะวัดพระธาตุช่อแฮพระอาราม
ผู้คนต่างหลั่งไหลมามนัสการองศ์พระธาตุและปูชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
และได้ชมกับความงดงามในศิลป์ล้านนาและวัฒนธรรมต่างๆพร้อมท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆในจังหวัดแพร่
หลังเสร็จสิ้นภารกิจกับกิจกรรมฯที่ได้ตั้งใจมาร่วมวิ่งฝ่าสายหมอก แพร่มาราธอน
ครั้งที่ 18 ในครั้งนี้
ทางด้านนายกำพล โปร่งใจ นายกสมาคมวิ่งเพื่อสุขภาพ จังหวัดแพร่
ได้กล่าวว่าต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนที่ให้ความร่วมมือและขอบคุณนักวิ่งฯทุกคน
ที่ตังใจมาวิ่งและได้สุขภาพที่ดีกลับไป ในปีต่อไปจะพยายามจัดการวิ่งมาราธอน
ให้ดีกว่านี้และจะเปิดรับสมัครนักวิ่งให้มากกว่านี้
การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นที่พอใจและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ต้องขอขอบพระคุณ
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณโกศัยเจติยารักษ์
รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุช่อแฮฯ
ที่อนุเคราะห์สถานทีพร้อมสนับสนุนเงินและ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ที่คอยติดตามและดูแลการจัดการวิ่งฝ่าสายหมอก แพร่ มาราธอน
ครั้งที่ 18 มาด้วยดีตลอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น