เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ประเทศไทยได้จัดการให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ( สส. )
ทั่วประเทศโดยพร้องเพียงกัน ในประเทศไทยห่างเหินการเข้าคูหาการกากะบาทมาร่วม 5 ปี เสมือนชาวบ้านอัดอั้นอยากจะให้มีการเลือกตั้ง ในที่สุดก็มี พรฏ. การเลือกตั้ง กกต.จึงกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดย
นาย อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาในจังหวัดแพร่ ได้จัดการเลือกตั้ง สส.แบ่งเขต โดยมี นางชรินทร์ทิพย์ ไชยโย ผอ.การเลือกตั้ง จ.แพร่ จึงได้เปิดรับสมัครว่าที่ สส.ในจังหวัดแพร่ ทั้งเขต 1 และเขต 2 เมื่อวันที่ 4 - 8 กุมภาพันธ์ 2562 มี เขต 1 มี อำเภอเมือง, อำเภอหนองม่วงไข่, อำเภอร้องกวาง, อำเภอสอง และมีผู้สมัครทั้งสิ้น 26 พรรค 26 คนประกอบด้วย
ส่วนเขต 2 มี อำเภอสูงเม่น, อำเภอเด่นชัย,
อำเภอลอง, อำเภอวังชิ้น, มีผู้สมัครทั้งสิ้น 23 พรรค 23 คน ประกอบด้วย
ในเมื่อผู้สมัครลงรับการสมัคร สส.แบบแบ่งเขตแล้วแต่ละพรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องนำกลยุทธ
การหาเสียงทุกรูปแบบ
โดยเฉพาะพรรคใหญ่ คือพรรคประชาธิปัตย์ โดยการนำของ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู
(สส.ปารตี้ลิส) ได้ นางธนินจิตรา ศุภศิริ ได้เบอร์ 9 ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ดต.บุหลัน ราษฏร์คำพรรณ์ เบอร์ 1 พรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยการนำของ นพ.นิยม
วิวรรธนดิฐกุล (รองหน.พรรค สส.ปารตี้ลิส) ได้
นายเนาว์รัตน์ คณะนัย เบอร์ 2 ส่วนพรรคอนาคตใหม่ หัวหน้าคือ นายธนาธร
จึงรุ่งเรืองกิจ ได้
นายเอกการ ซื่อทรงธรรม
ยังมีอีกหลายพรรคที่หาเสียงแบบเคาะประตูหน้าบ้านบ้าง บางพรรคโดยเฉพาะพรรคเล็กๆที่ปล่อยให้ผู้สมัครต่างดิ้นรนหาทุนมาหาเสียงเพราะทางพรรคบางพรรคไม่ได้มีท่อน้ำเลี้ยงให้มีแต่ค่าสมัครว่าที่สส.คนละ
10,000 บาท เท่านั้น ผู้ที่ลงสมัครว่าที่
สส.ต่างก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำตัวเองได้คะแนนเสียงเอาไปต่อรองกับหัวหน้าพรรคที่ตัวเองสังกัด
จนมีข่าวว่า ว่าที่ สส.ถูกลอยแพ
ป้ายหาเสียงส่วนมากจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่แทบทั้งสิ้น
รถแห่ป้ายก็จะได้ยินได้เห็นพรรคการเมืองข้างต้นเท่านั้น 46 วันกับการหาเสียงของทุกพรรค
จนถึงวันเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 08.00 - 17.00 น. ผลสรุปการนับคะแนนของเขต 1 ปรากฏว่า พรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนถึง 72,016 คะแนน ผู้สมัครคือ นายเอกการ ซื่อทรงธรรม
ได้รับการชูมือ ทิ้งห่าง พรรคประชาธิปัตย์ นางธนินจิตรา ศุภศิริ มาอันดับที่ 2 ได้ 38,035 คะแนน และชนะ ด.ต.บุหลัน
ราษฏร์คำพรรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 15,399 คะแนน ส่วนอื่นๆทิ้งห่างกันชนิดที่ว่าไม่เห็นฝุ่น
ส่วนในเขต 2 พรรคการเมืองใหญ่ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ มี นายคณาธิป
มุดเจริญ เบอร์ 9 พรรคพลังประชารัฐ
มี นายวิตติ แสงสุพรรณ เบอร์ 1 พรรคเศรษฐกิจใหม่
นางสิริพร กุลวงศ์ เบอร์ 12 ส่วนพรรคอนาคตใหม่
แทบจะไม่อยู่ในสายตาของผู้มีสิทธิ์มีเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้เลย
เมื่อผลปรากฏออกมา นายกฤติดนัย สันแก้ว เบอร์ 7
คะแนนนำโด่งมาอันดับที่ 1 ได้ 55,695 คะแนน
นำพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 9
อยู่ที่ 14,312 คะแนน
ส่วนพรรค พลังประชารัฐ มี
นายวิตติ แสงสุพรรณ เบอร์ 1 ได้ 28,223 คะแนน
ส่วนพรรคอื่นๆได้คะแนนหลักพันและหลักร้อยเท่านั้น ปรากฏการณ์ในครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองในจังหวัดแพร่
เพราะผู้สมัครแทบไม่ได้หาเสียงชาวบ้านไม่มีใครรู้จักหน้าตาเป็นอย่างไร
เห็นแต่ในหนังสือแจ้งเจ้าบ้านและตามหน้าหน่วยเลือกตั้งเท่านั้น เป็นสิ่งที่พรรคการเมืองใหญ่ๆจะต้องทบทวนแนวทางการหาเสียงหรือกับการออกนโยบายของพรรค
หรือจะต้องเปลี่ยนแปลงกระบวนการพูดแบบถึงลูกถึงคน
นั้นคือประเด็นการคิดและหาเสียงในโอกาสต่อไป
ในการเลือกตั้งครั้งนี้นับว่าเป็นบทเรียนของพรรคการเมืองใหญ่หรือพรรคเล็ก
จะต้องอย่าประมาณคู่ต่อสู้ของการเมือง
สิ่งที่ไม่แน่นอนคือสิ่งที่ทุกพรรคการเมืองต้องอย่าไปดูถูกประชาชนและอย่าไปเอานโยบายที่เป็นไปไม่ได้มาหาเสียง
คนไทยทุกคนต่างมีจิตสำนึกว่าการเมืองคือทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม
จะต้องมีการแสดงออกความคิดเห็นได้และจะต้องทำให้ชาวประชาอยู่สุขสบายพร้อมจะต้องท่องให้ขึ้นใจว่าในยุคสมัยนี้โลกเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยสื่อสารไร้พรมแดน โซเชียลเน็ตเวิร์กก็เป็นปัจจัยสำคัญเพราะใช้ต้นทุนที่ไม่เยอะแต่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพรรคทุกคนที่ลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้แต่ไปไม่ถึงดวงดาว
โอกาสหน้ายังมีให้พวกท่านแสดงบทบาทคำว่า สส.ต่อไป
นายเอกการ ซื่อทรงธรรม ( พรรคอนาคตใหม่ )
นาย กฤติดนัย สันแก้ว ( พรรคอนาคตใหม่ )
นางธนินจิตรา ศุภศิริ ( พรรคประชาธิปัตย์ )
ด.ต.บุหลัน ราษฏร์คำพรรณ์ ( พรรคพลังประชารัฐ )
นายวิตติ แสงสุพรรณ ( พรรคพลังประชารัฐ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น