วันที่ 28 มีนาคม 2562 เวลา 08.30 น. ที่
หอประชุม อำเภอสูงเม่น นายพยุงศักดิ์ พลลุน
นายอำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่
เป็นประธานในการเปิดประชุมสามัญให้กับกลุ่มองค์กรหนึ่งที่ได้จัดตั้งกองทุนสวัสดิการ
อ.สูงเม่น ที่ได้แอบอ้างกฎระเบียบกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง มาตั้งแต่ ปี 2555 มีเม็ดเงินหลักล้านจนปานเข้าไป 2 ร้อยกว่าล้านในเวลาเพียง 7
ปีเม็ดเงินมหาศาลได้สร้างความปั่นป่วนจนมีการร้องเรียนถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่
จน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
ได้ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบจนนำพาฟ้องถึงการแจ้งทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน
สภ.สูงเม่น ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหาร 7 คนส่งให้ทางอัยการจังหวัดแพร่ส่งสำนวนฟ้องศาลจนในที่สุดศาลจังหวัดแพร่ จึงมีคำพิพากษาตัดสินจำคุกผู้บริหารทั้ง
7 คน
ดั่งที่เป็นข่าวมาตามลำดับ ในข้อกล่าวหาผิด พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 ในมาตรา 33, 61, 66 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 83
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 10,000
บาทจำเลยทั้ง 7 คนให้การรับสารภาพพิจารณา
มีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 6
เดือนปรับคนละ 5,000 บาท
วิเคราะห์แล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 7 คนได้รับโทษจำคุกมาก่อน ให้โอกาสกลับตัวเป็นพลดี
โทษจำคุกให้รอลงอาญามีไว้กำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ตั้งแต่
วันที่ 17 กันยายน
2561 เป็นเหตุการณ์
ที่ทางฝ่ายร้องเรียนได้เริ่มมาตั้งแต่ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561จนฝ่ายบริหารทั้ง 7 คน
ถูกคำพิพากษาจนในที่สุด และได้มอบหมายให้ฝ่ายก่อตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
อ.สูงเม่น โดยการนำของ จ.ส.อ.ชำนาญ รัตนการุณจิต พร้อมพวกอีก 7 คน
ได้นำสมาชิกทั้ง 19,850 คน
แต่เดิมมีสมาชิก 20,200 คน
แต่มีผู้ไม่เข้าร่วมการเป็นสมาชิกอีกจำนวน 350 คน (ขอถอนตัว)
แต่มีสมาชิกบางคนเริ่มที่จะไหวตัวแล้วว่าในอนาคตจำนวนสมาชิกก็จะลดลงเพราะมีการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่มีสมาชิกสมัครเข้ามาเพิ่มจะทำให้ให้ญาติผู้รับผลประโยชน์ได้ลดตามส่วนตามมาทุกปี
สมาชิกบ้างคนเริ่มที่จะคิดออกแล้วว่าในอนาคตสมาชิกลดลงค่าต่างก็จะลดลง ณ.เวลานี้สมาชิกบางท่านจะขอถอนการเป็นสมาชิกเป็นจำนวนมาก
ทุกตำบล ในการประชุมในครั้งนี้มีสมาชิกมาประชุมประมาณ 2 พันกว่าคน จนล้นหอประชุม อ.สูงเม่น มายืนรออยู่ด้านนอกหอประชุมเพราะไม่มีเก้าอี้นั่ง
จนทำให้สมาชิกบางท่านคนต้องหนีกลับบ้าน มีอยู่เหตุหลายประการ คืออากาศก็ร้อน อีกประการหนึ่งคณะกรรมชั่วคราวก็ได้อ่านกฎระเบียบถึง
60 ข้อ
ใช้เวลาอ่านนานถึง 2
ชั่วโมง จนทำให้สมาชิกเริ่มมีปฏิกิริยาไม่พอใจกับการยืดเยื้อการดำเนินการประชุม
ถึงเวลา 12.30 น. มีการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมฯเพื่อมาบริหารสมาคมฯสมาชิกได้เสนอให้แต่ละตำบลส่งตัวแทนมาตำบลละ
1 คน
แต่มีสมาชิกไม่ถึงหนึ่งร้อยคน
ในการจัดตั้งคณะกรรมการในครั้งนี้ผู้มีส่วนได้เสียโดยเฉพาะกรรมการที่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดยังมีการเสนอชื่อของตัวเองให้สมาชิกรับรอง
แต่มีสมาชิกในที่ประชุมคัดค้านนำหลักฐานคำพิพากษาศาลมาให้ประธานที่ประชุมได้อ่านดู จนประธานฯได้สั่งตรวจสอบคุณสมบัติของคณะกรรมการที่แต่ละตำบลเสนอมา ทางผู้สื่อข่าวได้เกาะติดกับสถานการณ์ตลอด
จนมีความเห็นว่าการประชุมในครั้งนี้ไม่ครบองค์ประชุมเพราะยังมีกรรมการชุดที่มีปัญหาจากคำพิพากษาพยายามที่จะเข้ามาแทรกแซงกับการจัดตั้งคณะกรรมการและขอมีบทบาทในการบริหารของสมาคมฌาปนกิจ
สงเคราะห์ อ.สูงเม่น จึงเห็นว่าการจัดตั้งประชุมในครั้งนี้ไม่เป็นไปตาม
พ.ร.บ.ฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ. 2545 เพราะไม่เป็นตามกฎระเบียบโดยเฉพาะก่อนการประชุม 7 วัน
กรรมการก่อตั้งสมาคมฯจะต้องทำหนังสือกฎข้อระเบียบนำเสนอให้สมาชิกศึกษาก่อนการประชุมและจะแก้ไขในกฎระเบียบในมาตราไหน
ทั้งๆที่ในการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ โดย
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่
ได้แจ้งที่ประชุมแล้วว่าให้คณะผู้ก่อตั้งสมาคมฯจะต้องปฎิบัติตามคำสั่งจะมาอ้างว่า งบประมาณในการดำเนินการไม่ได้
ทั้งๆที่งบประมาณในบัญชีของกองทุนสวัสดิการฯ ยังมีอยู่มหาศาล
จะเป็นด้วยความตั้งใจหรือมีอะไรหมกเม็ดหรือไม่ ที่ผู้ก่อตั้งไม่ปฏิบัติตามวาระที่ประชุมที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการในที่ประชุม จึงวันประชุมจริงสมาชิกได้รับก่อนการเปิดการประชุมสามัญเพียงหนังสือเชิญชวนมาร่วมประชุมและวาระการประชุมเท่านั้น
แค่เริ่มต้นกับการบริหารเม็ดเงินมหาศาลก็เริ่มจะส่อแววความไม่โปร่งใสแล้ว
การจัดตั้งคณะกรรมกาบริหารสมาคมฯชุดแรกว่ามีใครบ้างและมีกรรมการเป็นไปดั่งที่แต่ตำบลเสนอชื่อหรือไม่
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ธุรกิจแพร่ และหนังสือพิมพ์ ไทยนิวส์ จังหวัดเชียงใหม่
จะนำเสนอต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น