จากการที่มีชาวบ้านร้องเรียนในการเผาป่า บุกรุกป่าในพื้นที่ดังกล่าว จนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องผนึกกำลังเข้าเคลียพื้นที่กว่า 8 ไร่เศษ ในพื้นที่ดังกล่าวมีการทำสวน ปลูกเมี่ยงใบชา ต้นเงาะ ทุเรียน มังคุดและพืชอื่นๆอีกมาก แต่ทางเจ้าหน้าทีชุดปฏิบัติการเข้าเคลียร์พื้นที่พบต้นไม้น้อยและใหญ่ นานาชนิด อายุนับ 60-70 ปี บางต้นอายุนับร้อยปี ถูกลักลอบกานต้นไม้ยืนต้นเพื่อให้แห้งตายก่อนโคนตัด ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้เชิญ นางพัชรินทร์ เดชา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ เจ้าของในพื้นที่ จึงทราบว่าเจ้าของสวนที่ติดกับการกานต้นไม้ดังกล่าว คือนายชม ฝั้นเลิศ อายุ 55ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ที่ 4ต.ป่าแดง อ.เมือง จ.แพร่ ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจึงจับกุมและนายชม ฝั้นเลิศ ก็รับสารภาพว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นของตัวเองโดยซื้อมาจากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันแต่ไม่เอกสารสิทธิ์แต่ประการใด ทีสำคัญยังรับสารภาพว่าต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งหมดที่กานยืนต้น ตัวเองเป็นผู้กระทำกานต้นไม้ยืนต้นเพื่อให้ต้นไม้ตายแล้วจึงทำการตัดโคนเมื่อทางเจ้าหน้าที่มาพบก็จะบอกว่าต้นไม้ยืนต้นตายเอง นี่เป็นการคิดเป็นชาญฉลาดแต่แฝงด้วยการทำลายป่าแบบมโหฬารทั้งหมด 160 ต้นเจ้าหน้าที่ฯจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ เพื่อดำเนินคดีกันต่อไป แต่เรื่องยังไม่จบ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 เมื่อทาง
ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ รับทราบเรื่องดังกล่าวจึงให้ คณะเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่3 สาขา3 นายจีระ ทรงวุฒิ ผู้อำนวยการ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ ได้สั่งการให้เจ้าที่ชุดรุกขกร สจป.ที่ 3 สาขาแพร่ ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ที่ พร.9 (ช่อแฮ) ศูนย์ป่าไม้แพร่ ได้เดินไปยังสถานที่ดังกล่าว เพื่อไปช่วยกันปฐมพยาบาลต้นไม้ 160 ต้น ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่ทางเจ้าที่ที่ไปรุกขกรบอกว่าถ้าต้นไม้ต้นไหนที่โดนกานจนเปลือกแห้งโอกาสรอดยาก แต่จะพยายาม แต่ต้นไหนที่ถูกกานใหม่ๆหรือเปลือกยังไม่แห้ง ต้นไม้ต้นนั้นโอกาสรอดมีสูง ทางเจ้าที่รุกขกร จึงบอกว่าการทำกานต้นไม้ที่ยืนต้นจะทำให้การดูดซึมน้ำไปตามเปลือกและลำต้นไม่ได้เต็มร้อย จึงทำให้ต้นไม้ที่ถูกกานยืนต้นตายได้ง่าย การทำปฐมพยาบาทรุกขกรของต้นไม้ ทางเจ้าที่จ้องตัดเอากิ่งไม้หรือเนื้อไม้เดียวกันมาทำการทำรุกขกรจึงจะทำให้ต้นไม้ต้นนั้นรอดตายได้ นั้นประเด็นที่ชาวบ้านเมื่อทางรัฐได้ให้ที่ทำกินตามกฏหมายแล้ว แต่ยังไปรุกพื้นที่ที่เป็นป่าสมบูรณ์อีก เมื่อทางเจ้าที่เข้าไปจับกุมก็บอกว่ารังแกชาวบ้าน การที่พวกเราจะรักษาป่าให้สมบูรณ์ ให้ลูกให้หลานพวกเราเห็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มันเป็นจิตสำนึกของผู้ที่ทางรัฐให้โอกาสแล้ว แต่ก็ยังฝ่าฝืนไปรุกผืนป่าที่สมบูรณ์อีก ผู้นำท้องที่ฝ่ายปกครองที่อยู่ใกล้ชิด ที่รู้ว่าบุคคลใดรุกผืนป่า ผู้นำปกครองจะต้องเป็นหู เป็นตาแท่นเจ้าหน้าที่รัฐและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มีอะไรไม่ชอบมาพากล ต้องแจ้งให้ทางการรับทราบ ถ้าเกิดเหตุแบบนี้จะมาบอกสังคมว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ นั้นเท่ากับตัวท่านเองไม่ประสิทธิภาพแน่นอนในด้านฝ่ายปกครองพื้นที่
หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว
เบียร์ : เรียบเรียง
เฟรน : กราฟิก
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด
ขอขอบคุณ ผช.ป้องกัน จ.แพร่
ขอขอบคุณ ผช.ป้องกัน จ.แพร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น