คำแถลง สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย - Phrae Business

Phrae Business

หนังสือพิมพ์ ธุรกิจแพร่

Breaking

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2563

คำแถลง สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย

วันที่ 13 เมษายน 2563 จากการเกิดโรคติดเชื้อระบาดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 หรือโควิด19 มีการระบาดไปทั่วโลกทุกทวีปกว่า200 ประเทศ แต่ละประเทศมีการปิดประเทศ บางประเทศก็ต้องหามาตรการการป้องกันคุมเข้าเฝ้าระวังการนำเชื้อเข้ามาในประเทศของตัวเอง ในประเทศไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้นำประเทศได้มีมาตรการการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด19 ในประเทศไทย จึงนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาใช้ในการควบคุมประชาชนในประเทศอยู่ในกรอบที่จะนำพาเชื้อไวรัสโควิด19 กระจายไปทั่ว จึงมีการนำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ เริ่มแรกประกาศเคอร์ฟิว ห้ามผู้คนออกนอกเคหะบ้านช่องในเวลา 22.00 น ถึง 04.00 น.จนกว่าจะเข้าสู้สภาวะปรกติ และให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใช้อำนาจตามหน้าที่และความเหมาะสมกับสถานการณ์แต่ละจังหวัด 
ส่วนในจังหวัดแพร่ ดร.กานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ใช้มาตรการในการคุมเข้มและตั้งด่านจุดสกัดคัดกรอง 4 จุดตรวจ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน2563 เริ่มรณรงค์ตั้งด่านจุดตรวจคัดกรองทุกตำบลและจัดชุดปฏิบัติการเร็วทุกหมู่บ้าน ถือว่าได้ผลเป็นที่พอใจระดับหนึ่ง ในส่วนสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ได้ออกมีมาแจงที่เกี่ยวกับการพ่นยาฆ่าเชื้อบนตัวบุคคลหรือสถานที่ต่างๆเพื่อทำลายเชื้อโควิด19 นั้นผู้ป่วยด้วยโรคโควิด19 ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร ด้วยความกังวลเรื่องการของการปนเปื้อนเชื้อในสถานที่สาธารณต่างๆ และที่พักอาศัย ตลอดจนในร่างกายของผู้ป่วย จึงเกิดการปฏิบัติที่หลากหลายด้วยความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะช่วยทำลายเชื้อ หรือลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบนร่างกายคนของบุคคลทั่วไปทั้งในลักษณ์ของการสร้างอุโมงค์ให้รอดผ่านหรือผ่านไปตามทางปรกติ การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนถนนหรือสถานที่สาธารณะต่างๆ ตลอดจนภายในอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยหรือร้านค้า
ทางสมาคมโรคติดต่อเชื้อแห่งประเทศไทย ขอเรียนชี้แจงว่า
     1. การฉีดพ่นทำลายเชื้อบนร่างกายของบุคคล ไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อการติดเชื้อ เนื่องจากหากบุคคลมีเชื้อไวรัสอยู่ เชื้อจะอยู่ทางเดินหายใจ ซึ่งการพ่นยาฆ่าเชื้อในลักษณะดังกล่าว จะไม่สามารถทำลายเชื้อได้ นอกจากนี้ ยาฆ่าเชื้อยังอาจจะเป็นอันตรายต่อคนได้ จึงไม่ควรทำโดยเด็ดขาด การป้องกันการแพร่เชื้อที่ถูกต้อง คือการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล การใช้หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง และการรักษาความสะอาดล้างมือบ่อยๆ

     2. ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อหรืออบฆ่าเชื้อด้วยสารเคมีต่างๆ บนถนน สถานที่สาธารณะ หรืออาคารบ้านเรือนใดๆ ไม่ว่าในสถานที่นั้นมีผู้ป่วยโรคนี้หรือไม่ การปฏิบัติดังกล่าว เป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคแต่ประการใด นอกนี้ หากบริเวณนั้นมีเสมหะหรือสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจของผู้ติดเชื้อที่ยังไม่แห้ง การพ่นฉีดยาฆ่าเชื้ออาจจะทำให้เชื้อฟุ้งกระจายขึ้นมา เป็นอันตรายได้ หากจะทำความสะอาดในกรณีที่มีผู้ที่พักอาศัยหรือผู้ใช้บริการป่วยเป็นโรคดังกล่าว แนะนำให้ใช้วิธีเช็ดถูด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ซึ่งมีรายละเอียด ท่านสามารถศึกษาได้ที่เว็บไซด์ https://www.idthai.org/Contents/Views/?d=ynqM!67!1!!651!XKZ6Dfmo

จากกรณีดังกล่าวที่ทางการและหน่วยงานต่างๆ ได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อตามสถานที่ราชการและตามตลาดสด และพื้นผิวถนน แสดงว่าการปฏิบัติดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตอนจากนี้ไปการปฏิบัติดังกล่าวทุกหน่วยงานจะต้องรณรงค์ให้ทุกหน่วยงานและประชาชนรับทราบ หน่วยงานที่ให้ความรู้คือ สาธารณสุขจังหวัดแพร่

หนานน้อย เวียงโกศัย : ข่าว    
เบียร์ : เรียบเรียง 
เฟรน : กราฟิก 
นิสายชล ศิริวาท : การตลาด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Pages